วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

บันทึกอนุทินครั้งที่ 4
วัน อังคารที่ 27 เดือน มกราคม พ.ศ. 2558
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
ครูผู้สอน อ.ตฤน แจ่มถิน
ความรู้ที่ได้รับ
บทบาทครูปฐมวัยในห้องเรียนรวม
ครูไม่ควรวินิจฉัย
  -การวินิจฉัย หมายถึงการตัดสินใจโดยดูจากอาการหรือสัญญาณบางอย่าง
  - จากอาการที่แสดงออกมานั้นอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้
  -ครูไม่ควรตั้งชื่อหรือระบุประเภทเด็ก
  -กิดผลเสียมากกว่าผลดี
  -ชื่อเปรียบเสมือนตราประทับตัวเด็กตลอดไป
  -เด็กจะกลายเป็นเช่นนั้นจริงๆ
  -ครูไม่ควรบอกพ่อแม่ว่าเด็กมีบางอย่างผิดปกติ
  -พ่อแม่ของเด็กพิเศษ มักทราบดีว่าลูกของเขามีปัญหา
  -พ่อแม่ไม่ต้องการให้ครูมาย้ำในสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว
  -ครูควรพูดในสิ่งที่เป็นความคาดหวังในด้านบวก แต่ต้องไม่ให้เกิดความหวังผิดๆ
  -ครูควรรายงานผู้ปกครองว่าเด็กทำอะไรได้บ้าง เท่ากับเป็นการบอกว่าเด็กทำอะไรไม่ได้
  -ครูช่วยให้ผู้ปกครองมีความหวังและเห็นแนวทางที่จะช่วยให้เด็กพัฒนา
  -ครูทำอะไรบ้าง
 -ให้ข้อแนะนำในการหาบุคลากรที่เหมาะสมในการประเมินผลหรือวินิจฉัย
 -สังเกตเด็กอย่างมีระบบ
-จดบันทึกพฤติกรรมเด็กเป็นช่วงๆ
-สังเกตอย่างมีระบบ
-ไม่มีใครสามารถสังเกตอย่างมีระบบได้ดีกว่าครู
-ครูเห็นเด็กในสถานการณ์ต่างๆ ช่วงเวลายาวนานกว่า
-ต่างจากแพทย์ นักจิตวิทยา นักคลินิก มักมุ่งความสนใจอยู่ที่ปัญหา
-การตรวจสอบ
-จะทราบว่าเด็กมีพฤติกรรมอย่างไร
-เป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ครูและพ่อแม่เข้าใจเด็กดีขึ้น
-บอกได้ว่าเรื่องใดบ้างที่เด็กต้องการความช่วยเหลือ

ข้อควรระวังในการปฏิบัติ
    ครูต้องไวต่อความรู้สึกและตัดสินใจล่วงหน้าได้
ประเมินให้น้ำหนักความสำคัญของเรื่องต่างๆได้
พฤติกรรมบางอย่างของเด็กไม่ได้ปรากฏให้เห็นเสมอไป

การบันทึกการสังเกต
   การนับอย่างง่ายๆ
   การบันทึกต่อเนื่อง
  การบันทึกไม่ต่อเนื่อง
 การบันทึกไม่ต่อเนื่อง
  บันทึกลงบัตรเล็กๆ
  เป็นการบันทึกสั้นๆเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนในช่วงเวลาหนึ่ง
  การเกิดพฤติกรรมบางอย่างมากเกินไป
   ควรเอาใจใส่ถึงระดับความมากน้อยของความบกพร่อง มากกว่าชนิดองความบกพร่อง
พฤติกรรมไม่เหมาะสมที่พบได้ในเด็กทุกคน ไม่ควรจัดเป็นสิ่งผิดปกติ
การตัดสินใจ
  ครูต้องตัดสินใจด้วยความระมัดระวัง
 พฤติกรรมของเด็กที่เกิดขึ้น ไปขัดขวางความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กหรือไม่

เพลง




การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
-ครูไม่ควรวินิจฉัยเด็กว่าเด็กเป็นเด็กพเศษหรือเปล่า
-ครูมองเด็กเป็นภาพรวม เห็นทุกอย่าง ทั้งด้านดี แลไม่ดีและพฤติกกรมที่เด็กแสดงออกมา
-นำความรู้ที่เราได้เรียนมาไปถ่ายทอดให้ความรู้แก่ผู้ปกครองได้
-ครูควรแก้ไขปัญหาเด็กให้ตรงจุดและเป็นปัญหาหลักตามลำดับความสำคัญ

การประเมินการเรียนการสอน
ประเมินตนเอง
เข้าเรียนตรงต่อเวลา  แต่งกายสุภาพเรียบร้อย สนุกสนานในการเรียน วันนี้อาจารย์สอนร้องเพลง และให้ร้องที่ละกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ร้องให้อาจารย์และเพื่อนฟังและวาดภาพดอกทานตะวันได้สวยมากๆ
ประเมินเพื่อน
เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่กายสุภาพเรียบร้อย ตั้วใจวาดภาพกันทุกคน ผลงานออกมาสวยๆทั้งนั้นทุกคนเรียนอย่างสนุกสนาน
ประเมินครูผู้สอน
เข้าสอนตรงต่อเวลาดีมาเสมอ แต่งกายน่ารักทุกวัน

สอนสนุกและเข้าใจง่าย อยากให้อาจารย์คงการสอนแบบนี้ต่อไปมีเทคนิคการสอนที่แปลกใหม่เสมอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น